วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

พรอพอลิส คืออะไร นะ

            พรอพอลิส เป็นส่วนผสมที่มีลักษณะเหนียวข้นเป็นยาง (Resinous) ได้มาจากยางของเปลือกไม้ที่ผึ้งงานรวบรวมมา โดยเฉพาะยางที่เคลือบอยู่บริเวณตาใบ (leaf buds) หรือยางที่ไหลออกมาจากส่วนต่าง ๆ ของต้นพืช โดยนำมาผสมกับไขผึ้งแล้วนำมาซ่อมแซมรัง อุดชันรอยรั่ว ตลอดจนรักษาความสะอาด และป้องกันการระบาดของเชื้อโรคภายในรังได้ด้วย โดยเมื่อมีซากของศัตรูผึ้งตายอยู่ในรัง และมีขนาดใหญ่ที่ผึ้งไม่สามารถจะนำออกไปทิ้งนอกรังได้   ผึ้งจะนำสารพรอพอลิสมาหุ้มไว้ ทำให้ซากนั้นไม่เน่า
            คำว่า พรอพอลิส (Propolis) เป็นภาษากรีก เกิดจากการสมาสคำ 2 คำ คือ  Pro ซึ่งหมายถึง ก่อนหรืออยู่ข้างหน้า และคำว่า Polis ซึ่งหมายถึง เมือง เมื่อรวมคำแล้วจึงมีความหมายว่า "หน้าเมืองหรือกำแพงป้องกันเมือง" นั่นเอง

ส่วนผสมและสารสำคัญในพรอพอลิส

            ด้วยสรรพคุณที่น่ามหัศจรรย์ของพรอพอลิสทำให้มีการวิเคราะห์หาส่วนผสมและสารสำคัญในพรอพอลิส ซึ่งผลจากการวิเคราะห์ปรากฎว่า พรอพอลิส ประกอบด้วย
§         ส่วนผสมของยางไม้และขี้ผึ้ง ประมาณร้อยละ 50-55
§         ขี้ผึ้งเหลือง ร้อยละ 30
§         น้ำมันหอม ร้อยละ 10-15 และ
§         ละอองเกสร ร้อยละ 5
            จากส่วนผสมดังกล่าว เมื่อพิจารณาในด้านสารประกอบทางเคมี จะพบสารสำคัญที่ทำให้พรอพอลิสมีคุณสมบัติเป็นสารปฏิชีวนะที่ดีที่สุดตามธรรมชาติ คือ สารประกอบฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่เป็นที่รู้จักว่ามีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Antioxidant) ต่อต้านเชื้อแบคมีเรีย, เชื้อไวรัส, เชื้อรา และมีคุณสมบัติยับยั้งการอักเสบ
            นอกจากนี้ยังพบสารอาหารอื่น ๆ อีกกว่า 22 ชนิด อันได้แก่ กรดอมิโน, คาร์โบไฮเดรต, วิตามินต่าง ๆ, เกลือแร่ เอนไซม์ และสารต้นต่อฮาร์โมนจากธรรมชาติ ฯลฯ 

สรรพคุณของพรอพอลิสทางการแพทย์

            พรอพอลิสให้ผลทางการแพทย์ใน 2 ลักษณะ คือ กระตุ้นระบบภูมิต้านทานในร่างกาย ซึ่งเป็นระบบอันเป็นกลไกธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ลักษณะที่สองคือออกฤทธิ์ฆ่าหรือทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย อาทิ เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา ตลอดจนเชื้อไวรัสต่าง ๆ อ่อนกำลังหรือไม่สามารถทำอันตรายมนุษย์ได้  
§         เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
            สารประกอบฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสมีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นเซลส์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า ฟาโกไซด์ (Phagocyte) ให้มีความสามารถและประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ได้ดีขึ้น รวมทั้งป้องกันการสึกหรอเสื่อมโทรมและชำรุดเสียหายของเซลส์ ตลอดจนสามารถพัฒนาการดูดซึมอาหารที่มีประโยชน์บางชนิดได้ดีขึ้น จึงเป็นผลดีสำหรับแผลที่อยู่ระหว่างติดเชื้อ ทำให้มีการติดเชื้อลดลง รวมทั้งยังเป็นการป้องกันก่อนการติดเชื้ออีกด้วย
§         มีฤทธิ์กำจัดการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
            พรอพอลิสไม่เพียงช่วยป้องกันการติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังมีฤทธิ์ฆ่าหรือทำให้เชื้อโรคที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายไม่สามารถทำงานได้ ได้มีการทดลองพบว่าพรอพอลิสมีประสิทธิภาพต่อการหยุดยั้งการเจริญเติบโตหรือการทวีปริมาณของเชื้อวัณโรค และป้องกันไม่ให้มันแพร่พันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีฤทธิ์ต่อต้านและทำลายแบคทีเรียได้หลายชนิด รวมทั้งชนิดที่ทำให้เกิดอาการเจ็บคอ (สเตร็ปโตค็อคคัส)
            พรอพอลิสมีประสิทธิภาพเป็นยาปฏิชีวนะเหนือกว่าเตทราไซคลีน (Tetracyclin) เพนนิซิลิน (Penicilin) และสเตร็ปโตมัยซิน (Streptomycin) ยาปฏิชีวนะทั้งสามชนิดนี้เป็นผลิตผลจากจุลินทรีย์ ในขณะที่ฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสเป็นผลิตผลจากต้นไม้   ซึ่งร่ายกายมนุษย์มีการตอบสนองต่อการบำบัดด้วยพรอพอลิสได้ดีกว่ายาปฏิชีวนะ ซึ่งมักก่อให้เกิดผลข้างเคียงไม่มากก็น้อย
§         เสริมฤทธิ์ยาปฏิชีวนะ
            นอกจากมีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะโดยตัวมันเองแล้ว พรอพอลิสยังช่วยเสริมประสิทธิภาพยาปฏิชีวนะอื่น ๆ ให้มีประสิทธิภาพ 10-100 เท่าของประสิทธิภาพเดิม นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะชนิดที่เป็นขี้ผึ้ง หรือน้ำมันสมานแผลได้เป็นอย่างดี
§         เป็นสารต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
            สารประกอบฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสมีคุณค่าสูงในการบำรุงรักษาหลอดโลหิตฝอยให้อยู่ในสภาพทีดี นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นเสริมประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซี ด้วยการป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาออกไซด์ เสริมประสิทธิภาพการทำงานในหลอดโลหิต ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นเป็นสาเหตุให้ร่างกายเสื่อมโทรม แก่เร็ว เพราะกลุ่มอณุมูลอิสระในเซลส์จะถูกยึดไว้ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ฟลาโวนอยด์ยังมีขีดความสามารถห่อหุ้มโลหะที่มีน้ำหนักอย่างตะกั่ว ปรอท และแคดเมี่ยม เพื่อป้องกันไม่ให้โลหะเหล่านี้ทำอันตรายแก่ร่างกายได้ รวมทั้งขับสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อันเกิดจากการผลิตของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดด้วย
§         ออกฤทธิ์ยับยั้งการผลิตพรอสตาแกลนดินส์
            เมื่อร่างกายมีการติดเชื้อหรือมีบาดแผล ร่ายกายจะขับพรอสตาแกลนดินส์ (Prostagrandins) ออกจากต่อม ทำให้เกิดความเจ็บปวดบาดแผล แผลอักเสบ และเป็นไข้ตัวร้อน สารประกอบฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสมีฤทธิ์สกัดการผลิตพรอสตาแกลนดิสก์ในร่างกาย จึงช่วยบรรเทาอาการปวดในลักษณะคล้ายแอสไพริน แต่เป็นสารจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารชีวเคมีสังเคราะห์ จึงไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ
§         ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารฮิสตามิน
            หากร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้ามา อันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ ฮิสตามิน (Histamine) จะถูกขับออกจาก มาสต์เซลส์ (Mastcells) ทำให้เกิดอาการแพ้ ปวดบวม เป็นผื่นแดง หรือคันตามผิวหนัง อาการดังกล่าวจะลดลงถ้ามีสารบางอย่างมาสกัดกั้นการขับฮิสตามิน (แอนติฮิสตามิน : Anti-Histamine) ซึ่งพบว่าสารประกอบฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสมีฤทธิ์ยังยั้งการขับสารฮิสตามินของมาสต์เซลส์ได้ดี          

  • บรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบของแผล
  • บรรเทาอาการบวม เป็นผื่นแดง และคันตามผิวหนังของโรคภูมิแพ้
  • บำบัดอาการเจ็บคอ และการอักเสบในลำคอ รวมทั้งอาการผิดปกติอื่น ๆ ในช่องปาก ช่องโพรงจมูกและช่องหู
  • บำบัดอาการปวดกล้ามเนื้อ และอาการปวดตามข้อกระดูก รวมถึงอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวอื่น ๆ 
  • บำบัดรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โดยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน ลดการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ และช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผิวเนื้อส่วนที่ได้รับความร้อน
  • บำบัดอาการช่องท้องและลำไส้เป็นแผล
  • บำบัดอาการโรคผิวหนังได้หลายชนิด รวมทั้งสิว อาการผื่นคันตามเนื้อตัว โรคหัด โรคเริม หูด              

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น